เลือกอ่างอาบน้ำแบบลอย และ อ่างอาบน้ำแบบฝังที่เหมาะกับการใช้งาน
ความเหนื่อยล้าจากการทำงานในแต่ละวันนั้น ส่งผลให้ร่างกายต้องการการพักผ่อนอย่างเต็มที่ นอกจากการเอนกายนอนบนเตียงนอนนุ่ม ๆ แล้ว หากได้นอนแช่น้ำในอ่างอาบน้ำ็คงขจัดความอ่อนล้าและเมื่อยล้า ได้มากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่การเลือกซื้ออ่างอาบน้ำอาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับใครหลายคน TOTO จึงมีวิธีการเลือกอ่างอาบน้ำให้เหมาะกับความต้องการมาแนะนำกัน สุขภัณฑ์ชิ้นเดียว
รูปแบบของอ่างอาบน้ำ
1. อ่างอาบน้ำแบบตั้งพื้นหรือ อ่างอาบน้ำแบบลอย
นิยมใช้กับห้องน้ำที่มีพื้นที่กว้าง
อ่างอาบน้ำตั้งแยกกับสุขภัณฑ์อื่น มีรูปทรงที่หลากหลาย
ติดตั้งและทำความสะอาดได้ง่าย
อีกทั้งสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายหรือซ่อมแซมในภายหลัง
สามารถวางบริเวณกลางห้องน้ำเพื่อโชว์ความสวยงามของอ่างอาบน้ำได้รอบด้าน
2. อ่างอาบน้ำแบบฝังเคาน์เตอร์
อ่างอาบน้ำประเภทนี้ติดตั้งค่อนข้างยาก
เนื่องจากต้องก่อปูนยกสูงจากพื้นเพื่อเป็นฐานรองรับตัวอ่างที่จะฝังลงไป
อ่างอาบน้ำประเภทนี้จึงมักตั้งอยู่ติดกำแพงเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่
รูปทรงของอ่างอาบน้ำ
นอกจากรูปแบบการของอ่างอาบน้ำที่ขึ้นอยู่กับการติดตั้งแล้ว
รูปทรงของอ่างอาบน้ำก็เป็นปัจจัยที่ช่วยให้การตกแต่งดูโดดเด่น
และยังส่งผลต่อการใช้งานอีกด้วย โดยรูปทรงของอ่างอาบน้ำ TOTO มีทั้งหมด 3
แบบ ได้แก่
1. อ่างอาบน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
เป็นรูปทรงแบบมาตรฐานที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
เนื่องจากเป็นอ่างอาบน้ำที่ใช้พื้นที่น้อยที่สุด
ใช้ได้ทั้งสำหรับแช่เดี่ยว หรือแช่แบบคู่
2. อ่างอาบน้ำทรงวงรี
เป็นรูปทรงที่นิยมใช้ไม่ต่างจากอ่างอาบน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้วยรูปแบบโค้งมนทำให้ห้องน้ำสี่เหลี่ยมนั้นดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
3. อ่างอาบน้ำทรงกลม
เป็นอ่างอาบน้ำที่ใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก
เหมาะกับการแช่น้ำเป็นกลุ่มเนื่องจากมีขนาดค่อนข้างใหญ่
เป็นอ่างอาบน้ำที่เหมาะกับการตกแต่งที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง

อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญของการเลือกซื้ออ่างอาบน้ำ ก็คือวัสดุที่ใช้ผลิต เนื่องจากวัสดุที่ใช้ผลิตมีผลต่อคุณสมบัติ และราคาของอ่างอาบน้ำ โดยวัสดุที่ TOTO นำมาใช้ผลิตอ่างอาบน้ำ จะมี 4 ประเภท
1. อ่างอาบน้ำหินอ่อนสังเคราะห์ หรือ GALALATO
เป็นหินอ่อนสังเคราะห์ที่หล่อขึ้นด้วยนวัตกรรมพิเศษจาก
TOTO ช่วยเพิ่มความคงทน มีให้คุณเลือกสรรได้ทั้งแบบผิวด้านและผิวมัน
เรียบหรูอย่างมีระดับ
2. อ่างอาบน้ำเหล็กหล่อ
เป็นวัสดุที่คงทนคล้ายกับเหล็กกล้า
คุณสมบัติที่สำคัญคือเก็บความร้อนได้ดีที่สุดและแข็งแรง
ทนการกัดกร่อนได้ดี จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
3. อ่างอาบน้ำอะคริลิก
เป็นวัสดุยอดนิยมที่ใช้ทำอ่างอาบน้ำเนื่องจากขึ้นรูปได้ง่าย ที่สำคัญคือมีน้ำหนักเบาจึงติดตั้ง และดูแลรักษาได้สะดวก
4. อ่างอาบน้ำเพิร์ลอะคริลิก
เป็นวัสดุทำมาจากอะคริลิกเคลือบ
มีลักษณะพื้นผิวมันเงาเป็นประกาย
การเคลือบนี้ทำให้อ่างอาบน้ำมีความหนามากยิ่งขึ้น
จึงช่วยให้เก็บความร้อนได้ดียิ่งขึ้น

วิธีการทำความสะอาดและดูแลรักษาอ่างอาบน้ำ
การทำความสะอาดและดูแลรักษาอ่างอาบน้ำควรทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อป้องกันคราบสกปรกติดแน่น จนทำให้เกิดภาพที่ไม่น่ามอง ไม่น่าใช้งาน
ดังนั้นควรทำความสะอาดอ่างอาบน้ำและพื้นที่โดยรอบให้ละเอียด
เพื่อสุขอนามัยที่ดี สุขภัณฑ์ห้องน้ำ
1. เคลียร์พื้นที่รอบ ๆ อ่างอาบน้ำ
นำของใช้ต่าง
ๆ ไม่ว่าจะเป็นขวดแชมพู สบู่เหลว โฟมล้างหน้า และของใช้อื่น ๆ
ที่วางอยู่บนขอบอ่างออกให้เรียบร้อย
และอย่าลืมนำขวดเหล่านี้ไปทำความสะอาดให้เรียบร้อยด้วย
2. ทำความสะอาดพื้นและผนังรอบ ๆ
เริ่มจากการทำความสะอาดพื้นและผนังรอบ
ๆ โดยทำความสะอาดคราบสกปรกที่กระเบื้องและร่องยาแนวให้เรียบร้อย
โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีฤทธิ์เป็นกรด
เพื่อป้องกันพื้นและผนังเป็นรอย และป้องกันน้ำยาไหลลงอ่างอาบน้ำอีกด้วย
3. ระบายน้ำออกจากท่อ
หากอ่างอาบน้ำเริ่มมีปัญหาอุดตัน
หรือเริ่มระบายน้ำได้ไม่ดีนัก
ควรใช้น้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยเทลงในท่อระบายน้ำ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
จากนั้นจึงเทน้ำร้อนตามลงไป จะช่วยให้น้ำไหลลงท่อได้ดียิ่งขึ้น
4. ใช้น้ำยาทำความสะอาดอ่างอาบน้ำ
ฉีดน้ำสบู่
น้ำยาล้างจาน หรือสเปรย์ทำความสะอาดลงบนพื้นผิว ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที
แล้วใช้แปรงที่มีขนนุ่ม
ฟองน้ำหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ถูน้ำยาทำความสะอาดให้ทั่ว
จากนั้นจึงล้างน้ำสะอาดให้เรียบร้อย
5. เช็ดอ่างอาบน้ำให้แห้ง
หลังจากล้างอ่างอาบน้ำด้วยน้ำสะอาดเรียบร้อยแล้ว
ใช้ผ้าสะอาดเช็ดพื้นผิวให้แห้ง
เพื่อป้องกันคราบน้ำเกาะติดและช่วยลดความชื้นภายในห้องน้ำด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น