ออมเงินด้วยกองทุน หรือ ประกันออมทรัพย์ แบบไหนดีกว่ากัน

เมื่อเข้าสู่วัยทำงานแล้วสิ่งที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนจะเริ่มทำกันก็คือ การออมเงิน ซึ่งการออมเงินนั้นเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ มีรายได้มากหรือน้อย ทุกคนก็ควรออมเงินและวางแผนการเงินเอาไว้แต่เนิ่นๆ ส่วนวิธีการออมเงินนั้นมีมากมายหลายวิธี ซึ่งวิธีที่นำมาฝากในวันนี้คือการออมด้วย การซื้อกองทุน และการออมด้วยการทำประกันออมทรัพย์ ประกันลดหย่อนภาษี
กองทุนรวม
สำหรับหนึ่งในวิธีการออมเงินที่หลายคนโดยเฉพาะคนในวัยทำงานนิยมเลือกก็คือ การลงทุนผ่านกองทุนรวม ซึ่งมีด้วยกัน 2 ประเภท ดังนี้
1. กองทุนรวมเพื่อการออม Super Saving Fund (SSF)
เป็นกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว
ข้อดีของกองทุนประเภทนี้คือสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภททั้งแบบจ่ายและไม่จ่ายเงินปันผล
มีระดับความเสียงให้เลือกตั้งแต่ระดับต่ำ – สูงมาก
ไม่กำหนดขั้นต่ำในการซื้อ ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
และที่พิเศษกว่ากองทุนรวมทั่วไปคือกองทุน SSF
เป็นกองทุนที่รัฐบาลอนุญาตให้สามารถนำจำนวนเงินที่ซื้อกองทุนมาหักลดหย่อนภาษี
เงินได้บุคคลธรรมดาได้ เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป
โดยจะลดหย่อนแบบปีต่อปี เราซื้อปีไหน ก็ลดหย่อนในปีนั้น
ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2563-2567
2. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ Retirement Mutual Fund (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
เป็นกองทุนที่ส่งเสริมเกิดการออมเงินในระยะยาวไว้สำหรับใช้จ่ายยามเกษียณ
โดยจะเป็นการออมแบบบังคับให้ลงทุนยาว ๆ ด้วยเงื่อนไขหลักคือ
ต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปีต่อเนื่อง หรืออย่างน้อยที่สุดคือปีเว้นปี
ถ้าเว้นมากกว่าหนึ่งปีจะถือว่าทำผิดเงื่อนไข และจะต้องมีอายุครบ 55 ปี
จึงจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนมาใช้ได้
โดยกองทุนประเภทนี้มีข้อดีที่จะไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำต่อปี
และปัจจุบันยังเพิ่มการลดหย่อนภาษีจากเดิมที่ 15% เป็นไม่เกิน 30%
ของเงินได้อีกด้วย

ข้อดีของการออมเงินด้วยกองทุน
ข้อดี
คือ
ผู้ออมจะได้รับกำไรเป็นภาษีที่ได้รับการลดหย่อนตามหน่วยเงินที่ได้ลงทุนไป
และเมื่อครบกำหนดระยะเวลาของการลงทุนในกองทุนก็สามารถขายหน่วยกองทุนที่เราซื้อไว้คืนเป็นเงินกลับมาได้ด้วย
ประกันควบการลงทุน
ข้อเสียของการออมเงินด้วยกองทุน
ข้อเสีย
คือ เป็นการลงทุนที่มีอัตราความเสี่ยงเพิ่มเข้ามา อาจเกิดปัญหาขาดทุน
และเนื่องจากมีระยะเวลากำหนดในการซื้อกองทุนเป็นระยะเวลานานไม่น้อยกว่า 5
ปี จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่รีบใช้เงิน
และต้องแน่ใจว่าเงินที่ลงทุนไปนั้นเป็นเงินเย็นจริง ๆ
ประกันออมทรัพย์
ประกันออมทรัพย์เป็นประกันที่เน้นการออมเงิน
คล้ายกับการนำเงินไปฝากธนาคาร
แต่สิ่งที่เราจะได้เพิ่มขึ้นจากผลตอบแทนแล้วยังได้รับความคุ้มครองตามมาด้วย
โดยการออมเงินในแบบของประกันชีวิตสะสมทรัพย์จะมีทั้งแบบระยะสั้น ระยะกลาง
และระยะยาว ที่มีอายุตั้งแต่ 3-5 ปี หรือยาวไปจนถึง 25-30 ปี เลยทีเดียว
โดยมักจะกำหนดเป็นระยะเวลา 5/10 7/15 15/25 1/30 20/20 เป็นต้น
ซึ่งตัวเลขเหล่านั้นจะบ่งบอกถึงจำนวนปีที่ชำระเบี้ยประกัน
และจำนวนปีที่คุ้มครอง เช่น ประกันชีวิต แบบออมทรัพย์
5/10 หมายถึง ระยะเวลาจ่ายชำระเบี้ย 5 ปี ให้ความคุ้มครองชีวิต 10 ปี
โดยเมื่อครบกำหนดอายุกรมธรรม์
ก็จะได้รับเงินออมและผลประโยชน์ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่กำหนดไว้ เป็นต้น

ข้อดีของการออมเงินด้วยประกันออมทรัพย์
ข้อดีของประกันออมทรัพย์นั้นส่งเสริมการออมในระยะยาวจึงสามารถใช้เป็นเครื่องมือออมเงินเพื่อไว้ใช้ยามชรา
หรือออมไว้เพื่อเก็บเป็นทุนการศึกษาของบุตรหลานได้
และยังมีข้อดีที่ได้ทั้งเงินออม ผลตอบแทน
พร้อมกับการคุ้มครองชีวิตเพิ่มขึ้นมา
นอกจากนี้แล้วยังมีข้อดีทั้งการไม่เสียภาษีและการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ข้อเสียของการออมเงินด้วยประกันออมทรัพย์
คือ
ด้วยการออมประเภทนี้เป็นการออมที่ทุนประกันไม่ค่อยสูง
เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับแบบประกันประเภทอื่นๆ
หากเทียบกับการออมประเภทที่ต้องจ่ายเบี้ยประกันที่เท่ากัน
และประกันออมทรัพย์ยังค่อนข้างจะมีสภาพคล่องต่ำเมื่อเทียบกับการออมประเภทอื่นๆ
ที่สามารถถอน หรือแปลงเป็นเงินสดได้ เป็นต้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น