เลือกได้ดี แต่ควรเลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์ โถสุขภัณฑ์

ทำความรู้จักกับประเภทของสุขภัณฑ์ ที่มีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ แต่ควรเลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์ บทความนี้ สรุปจุดเด่นมาให้แล้วแบบครบจบ
ห้องน้ำ
พื้นที่สำคัญที่บ้านและคอนโดทุกแห่งต้องมี
ซึ่งหากใครเคยมีโอกาสไปเดินชมสินค้าในร้านขายสุขภัณฑ์
ก็จะรู้ว่าสุขภัณฑ์หรือ โถชักโครก
มีให้เลือกหลากหลายประเภทมากกว่าที่คิด
แต่ในการเลือกซื้อสุขภัณฑ์สำหรับห้องน้ำ
นอกจากจะต้องเลือกจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้และมีรูปแบบที่สวยงามเหมาะกับสไตล์การตกแต่งห้องน้ำของคุณแล้ว
อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม
คือต้องตอบโจทย์การใช้งานของสมาชิกในบ้านด้วย
แล้วประเภทของสุขภัณฑ์มีกี่แบบ และแต่ละแบบมีคุณสมบัติเด่นอย่างไรบ้าง
สำหรับคนที่กำลังพิจารณาเลือกสุขภัณฑ์ใหม่
เราได้รวบรวมเรื่องราวของสุขภัณฑ์ไว้ให้แล้วในบทความนี้
ประเภทของสุขภัณฑ์แบ่งตามรูปแบบการใช้งาน
ในการแบ่งประเภทของสุขภัณฑ์นั้น เราสามารถใช้เกณฑ์การแบ่งได้หลายแบบ
อย่างแรกคือการแบ่งตามรูปแบบการใช้งานซึ่งเราสามารถเห็นความแตกต่างได้ด้วยตาเปล่า
นั่นก็คือสุขภัณฑ์แบบนั่งราบและสุขภัณฑ์แบบนั่งยอง โดยสุขภัณฑ์ทั้ง 2
ประเภทก็มีคุณสมบัติและจุดเด่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. สุขภัณฑ์แบบนั่งยอง
สุขภัณฑ์แบบนั่งยองหรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า ‘คอห่าน’
เป็นสุขภัณฑ์ที่ใช้กันมาเป็นเวลานาน ในประเทศไทย
สุขภัณฑ์แบบนี้มีจุดกำเนิดมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2467 และมีวิวัฒนาการมาเรื่อย ๆ
จนเป็นสุขภัณฑ์นั่งยองที่เราพบเห็นกันในปัจจุบัน
วิธีใช้งานคือผู้ใช้จะต้องย่อตัวลงนั่งยอง ๆ เพื่อขับถ่าย
หลังจากนั้นจึงใช้น้ำตักราดเพื่อชำระล้าง
หรือบางแห่งอาจใช้ร่วมกับฟลัชวาล์วเพื่อกดชำระล้าง
ซึ่งแม้ว่าสุขภัณฑ์ประเภทนี้จะมีราคาถูกกว่าสุขภัณฑ์แบบนั่งราบ
แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมนักในปัจจุบัน
เนื่องจากไม่เอื้อต่อการใช้งานในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อม
เพราะไม่สามารถย่อตัวลงไปนั่งยองเพื่อขับถ่ายได้
อีกทั้งการชำระล้างด้วยการตักน้ำราดยังทำให้ห้องน้ำเปียกอยู่ตลอดเวลา
พื้นลื่น เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
และพื้นห้องน้ำที่เฉอะแฉะยังเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
ตลอดจนเป็นที่สะสมของแหล่งเชื้อโรคอีกด้วย
2. สุขภัณฑ์แบบนั่งราบ
สุขภัณฑ์แบบนั่งราบ มักถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘ชักโครก’
ถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ
ลักษณะการใช้งานจะเป็นแบบนั่งราบไปบนโถเหมือนกับการนั่งบนเก้าอี้
ด้านหลังมีถังเก็บน้ำสำหรับชำระล้างติดตั้งอยู่
ด้วยความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งานสำหรับทุกช่วงวัย
ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และประหยัดน้ำได้มากกว่าสุขภัณฑ์นั่งยอง
ทำให้สุขภัณฑ์ชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
และถูกพัฒนาต่อยอดเรื่อยมา อาทิ การเพิ่มเทคโนโลยีช่วยประหยัดน้ำ
ไปจนถึงการคิดค้นสุขภัณฑ์อัตโนมัติที่เราพบเห็นกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในปัจจุบัน ซึ่งมาพร้อมกับระบบก้านฉีดชำระในตัว
ประเภทของสุขภัณฑ์แบ่งตามลักษณะของโถส้วม
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าสุขภัณฑ์นั่งราบนั้น
สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายกว่าสุขภัณฑ์แบบนั่งยอง
ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในปัจจุบัน
โถชักโครกแบบนั่งราบก็ถูกแบ่งประเภทแยกย่อยออกไปอีกหลายประเภท
เราจึงสามารถแบ่งประเภทของสุขภัณฑ์นั่งราบตามลักษณะของโถได้ ดังนี้

1.สุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว (One Piece Toilet)
คือสุขภัณฑ์ที่รวมทั้งตัวโถและถังสำหรับเก็บน้ำเอาไว้ในชิ้นเดียว
ทำให้เป็นสุขภัณฑ์ที่มีดีไซน์เรียบหรู ไร้รอยต่อ หมดปัญหาน้ำรั่วซึม
มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ และอุปกรณ์น้อยชิ้น
ทำให้ติดตั้งได้ง่ายกว่าสุขภัณฑ์ประเภทอื่น
แต่จะมีราคาสูงกว่าสุขภัณฑ์แบบสองชิ้น
หรือหากมีอุปกรณ์ใดที่ชำรุดเสียหายก็อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่แบบยกชุด
จึงควรมีการดูแลรักษาตรวจสอบอุปกรณ์ของสุขภัณฑ์ชิ้นเดียวอย่างสม่ำเสมอ สำหรับการใช้งานในระยะยาว
2.สุขภัณฑ์แบบสองชิ้น (Two Piece Toilet / Close Coupled Toilet)
โถสุขภัณฑ์สองชิ้น มีลักษณะคล้ายกับสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว
แต่ถังเก็บน้ำกับตัวโถจะแยกออกจากกัน จึงมีรอยต่อระหว่างตัวโถและถังพักน้ำ
สามารถต่อท่อน้ำทิ้งได้ทั้งแบบต่อลงพื้น (S-Trap) หรือแบบต่อออกผนัง
(P-Trap) ซึ่งการติดตั้งก็ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของหน้างานนั้นๆ
โถชักโครกแบบสองชิ้นเป็นสุขภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมาก ราคาไม่แพง
กรณีที่ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ใดชำรุด ก็สามารถเปลี่ยนเฉพาะอุปกรณ์นั้นได้
โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโถสุขภัณฑ์ทั้งชิ้น ง่ายต่อการดูแลรักษา
แต่อาจมีขั้นตอนการติดตั้งที่ยุ่งยากกว่าสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว
ทำความสะอาดยากกว่าเพราะมีหลายชิ้นส่วน
โดยเฉพาะรอยต่อระหว่างตัวโถและถังพักน้ำ ซึ่งมักมีสิ่งสกปรกเข้าไปสะสมอยู่
อุปกรณ์ทำความสะอาดอาจเข้าถึงได้ยาก และเมื่อใช้งานไปนาน ๆ
อาจเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมได้

3. สุขภัณฑ์แบบแขวนผนัง (Wall Hung Toilet)
โถสุขภัณฑ์แขวนผนังจะถูกติดตั้งด้วยการยึดติดกับหม้อน้ำซ่อนผนังพร้อมโครงเหล็กที่ทำหน้าที่ยึดโถเข้ากับกำแพงอีกชั้นหนึ่ง
แล้วปิดทับด้วยการก่อปูน ปูกระเบื้องให้เรียบร้อย
เป็นการซ่อนระบบท่อน้ำและถังพักน้ำเอาไว้ด้านในผนัง
ทำให้เห็นแค่โถสุขภัณฑ์และปุ่มกดชำระล้างเท่านั้น
อีกทั้งยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายทั้งตัวโถและพื้นด้านล่าง ดูหรูหรา
สวยงาม แต่มีราคาสูงและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของช่างผู้ติดตั้งเป็นพิเศษ
4. สุขภัณฑ์แบบตั้งพื้น (Wall Faced Toilet)
อีกหนึ่งประเภทของสุขภัณฑ์ที่นิยมใช้กันในครัวเรือน
ประกอบด้วยโถสุขภัณฑ์แบบตั้งพื้น ถังพักน้ำแบบซ่อนผนัง และที่กด
ลักษณะคล้ายกับสุขภัณฑ์แบบแขวนผนัง
แต่ระบบท่อน้ำของสุขภัณฑ์แบบตั้งพื้นสามารถต่อได้ทั้งแบบต่อลงพื้น (S-Trap)
และแบบต่อออกผนัง (P-Trap) หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง แต่หากติดตั้งไม่ดี
อาจเกิดการรั่วซึมได้ อีกทั้งการที่ไม่เห็นถังพักน้ำ
ช่วยให้ห้องน้ำของคุณดูโดดเด่น มีสไตล์มากยิ่งขึ้น
5. สุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ (Smart Toilet / Automatic Toilet)
สุขภัณฑ์ประเภทสุดท้าย
เป็นประเภทของสุขภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในระยะหลัง
สุขภัณฑ์อัตโนมัติ
หรือโถสุขภัณฑ์อัจฉริยะมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานอัตโนมัติ เช่น
ระบบก้านฉีดชำระทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ระบบชำระล้างทรงพลัง
ทำความสะอาดสิ่งสกปรกโดยใช้น้ำน้อยลง
ระบบทำความสะอาดของสุขภัณฑ์โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี
อีกทั้งฟังก์ชันอัตโนมัติยังช่วยลดการสัมผัสเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี
สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย สะดวกสบายและปลอดภัย
ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุก็ตาม
แต่สุขภัณฑ์ประเภทนี้ใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงาน
จึงควรเลือกซื้อสุขภัณฑ์อัตโนมัติจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย อีกทั้งยังต้องติดตั้งด้วยความระมัดระวัง
โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้หากกำลังอยู่ในระหว่างการเลือกซื้อบ้านใหม่
หรือรีโนเวทห้องน้ำ และอยากใช้งานชักโครกอัตโนมัติ
ควรเตรียมหน้างานให้มีการเดินสายไฟสำหรับใช้งานในห้องน้ำไว้ล่วงหน้า
เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อน และมาแก้พื้นที่หน้างานภายหลังได้ลำบาก
อาจทำให้ห้องน้ำของคุณไม่สวยงาม

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น