เมื่อเบี้ยประกันถูกออกแบบตามเป้าหมายทางการเงิน
การถามว่า ไทยประกันชีวิต จ่ายปีละเท่าไหร่ จะได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุดเมื่อระบุถึง "จุดประสงค์" ของการทำประกัน เพราะเบี้ยประกันถูกออกแบบตามเป้าหมายทางการเงินของผู้เอาประกันภัย
เบี้ยประกันของผลิตภัณฑ์ประเภท
"ประกันชีวิตเพื่อการออม" และ "ประกันบำนาญ"
ซึ่งเป็นกลุ่มที่เบี้ยประกันมีโครงสร้างที่ค่อนข้างคงที่
และมีการวางแผนเพื่อเป้าหมายในระยะยาว
โฟกัส: เบี้ยประกัน "ออมทรัพย์และมรดก"
เบี้ยประกันในกลุ่มนี้จะถูกกำหนดโดย
3 ปัจจัยหลัก คือ ทุนประกัน, ระยะเวลาชำระเบี้ย และ ระยะเวลาคุ้มครอง
โดยมักเป็นเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาชำระ ทำให้สามารถวางแผนการเงินได้แม่นยำ
1. ประกันชีวิตเพื่อการออม (Saving Life Insurance)
แบบประกันประเภทนี้มักมีจุดเด่นคือ
ชำระเบี้ยสั้น แต่ให้ความคุ้มครองยาวนาน พร้อมรับเงินคืนระหว่างสัญญา
และเป็นเครื่องมือที่ใช้ ลดหย่อนภาษี ได้ดี
ปัจจัยกำหนดเบี้ยหลัก ลักษณะเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อปี
ระยะเวลาชำระสั้น (เช่น จ่าย 5 ปี, 7 ปี, 10 ปี) เบี้ยต่อปีจะ สูง แต่จำนวนเงินรวมที่จ่ายทั้งหมดจะน้อยกว่า
ระยะเวลาชำระยาว (เช่น จ่าย 15 ปี, 20 ปี) เบี้ยต่อปีจะ ต่ำ ทำให้เป็นภาระรายปีน้อยกว่า
ทุนประกัน/เงินคืนสูง หากต้องการเงินคืน (ณ วันครบสัญญา) จำนวนมาก เบี้ยต่อปีก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
ตัวอย่างเบี้ย (โดยประมาณ):
•
สำหรับแผนออมทรัพย์ที่ ชำระเบี้ย 10 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี
หากเลือกทุนประกัน 100,000 บาท เบี้ยประกันต่อปีอาจอยู่ที่ประมาณ 10,000 -
30,000 บาท ขึ้นอยู่กับอายุเริ่มต้นและเพศ
2. ประกันชีวิตเพื่อมรดก (Whole Life Insurance)
แผนนี้เน้นความคุ้มครองชีวิตยาวนาน (ถึงอายุ 90 ปี หรือ 99 ปี) เพื่อส่งต่อเงินก้อน (มรดก) ให้ทายาท
• โครงสร้างเบี้ย: เบี้ยประกันมักจะค่อนข้าง คงที่ ตลอดอายุสัญญาที่ชำระ
•
เบี้ยต่อปี: จะคำนวณจาก ทุนประกันที่ต้องการ และ อายุเริ่มต้น ยิ่งทำเร็ว
(วัย 20-30 ปี) เบี้ยต่อปีจะถูกลงอย่างมากเมื่อเทียบกับทุนประกันที่เท่ากัน
3. ประกันบำนาญ (Pension Plan)
เบี้ยประกันในกลุ่มนี้ถูกออกแบบเพื่อเป็น การสะสมทรัพย์ ให้เพียงพอสำหรับเป็น "กระแสเงินสด" รายปีหลังเกษียณ
•
เบี้ยต่อปี: ขึ้นอยู่กับ จำนวนเงินบำนาญ ที่ต้องการรับต่อปีหลังเกษียณ และ
ระยะเวลาที่จ่ายเบี้ย ยิ่งจ่ายนานและต้องการบำนาญสูง เบี้ยก็จะสูงขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น